เราคงรับรู้เรื่องลบความทรงจำจากนิยายหรือหนังแนว sci-fi กันมาบ้าง แต่ช่วง 2-3 ปี มันเริ่มไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหนังหรือนิยายซะแล้วสิ
มีการตีพิมพ์ในวารสาร Psychonomic Bulletin & Review ว่าสามารถใช้เครื่อง fMRI (functional magnetic resonance imaging) ตรวจสอบความเชื่อมโยงความทรงจำ ทำให้เราสามารถมองเห็นการเชื่อมโยงของความทรงจำทั้งที่ดีและไม่ดีได้
จากแนวคิดข้างต้น จึงนำมาสู่แนวคิดการลดความเชื่อมโยงของความทรงจำที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งนำไปสู่การลบความทรงจำได้
ปี 2014 นิตยสาร Time ตีพิมพบทความชื่อว่า “Erasing Bad Memories May Soon Be Possible” ซึ่งพูดถึงว่าเทคโนโลยีลบความจำใกล้จะใช้ได้แล้วในอีกไม่นาน ปัจจุบันที่ใช้กันอยู่มี 2 เทคโนโลยีคือ
- Optogenetics ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ในหนู โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยกำหนดจุดของความทรงจำที่ดีหรือแย่ จากนั้นก็ฉายแสงเลเซอร์ลงไปยังจุดของความทรงจำดังกล่าวเพื่อกำจัดความเชื่อมโยง
- ใช้แก๊ส Xenon โดย Xenon จะไปจับกับ NMDA receptor ในสมอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงความทรงจำและการเรียนรู้ แต่วิธีนี้มีข้อเสียคือ Xenon มีราคาแพง และหากจะใช้ให้ผลต้องใช้ในปริมาณมาก
แล้วการลบความทรงจำมีประโยชน์อะไรในทางการแพทย์
ความทรงจำมีทั้งที่ดี และแย่ ความทรงจำที่แย่สร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับผู้คนจำนวนมาก เช่น ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน อุบัติเหตุ ถูกคุกคาม ความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ทหารผ่านศึกที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่เลวร้าย เป็นต้น โรคจิตเภทหลายอย่างก็มีสาเหตุมาจากความทรงจำที่เลวร้าย ดังนั้นการลบความทรงจำบางส่วนออกไป จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบางคนที่ต้องประสบกับความทรงจำอันเลวร้าย จนมีปัญหาทางกายและจิตใจ รวมไปถึงการใช้ชีวิต อย่างไรก็ดีตอนนี้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในระดับห้องทดลองเท่านั้น ยังไม่เคยมีการนำมาศึกษาในมนุษย์ และหากเทคโนโลยีสำเร็จขึ้นมาจริง ก็จะมีทั้งคุณและโทษขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้นำไปใช้ครับ
เรียบเรียงใหม่จากเพจ เภสัชกรการตลาด – Marketing Pharmacist
Share this: