เราคงเคยได้ยินสำนวนประมาณว่า อย่าชมเด็กมากเดี๋ยวเหลิง, ชอบให้ท้ายลูก หรือแม้แต่ ต้องด่ามันบ้าง จะไปชมอย่างเดียวไม่ได้หรอก, ต้องให้เด็กเรียนรู้ถึงความกดดันบ้าง จะได้เข้มแข็ง แต่แนวทางพวกนี้ไม่มีใครรู้จริงๆว่า มันได้ผลจริงหรือเปล่า แล้วผลจริงๆเป็นยังไงกันแน่
เป็นทราบกันดีในทางจิตวิทยามานานมากแล้วว่า คำชมหรือคำด่า มีความสัมพันธ์ต่อระบบการให้รางวัลหรือการลงโทษ การชมหรือการด่าจึงมีผลต่อพฤติกรรม ต่อคนทุกวัย ไม่เฉพาะกับเด็ก แต่เราคงเคยเห็นว่า การชมเด็ก บางครั้ง ก็ไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีเสมอไป เด็กที่เรียนได้เกรดดีๆ แต่พอมีคนไปชมมากๆ กลายเป็นผลการเรียกตกไปก็มี แบบนี้เรียกเหลิงหรือเปล่านะ แล้วต้องชมอย่างไรละ จึงจะถูกวิธี
การศึกษาชื่อ Praise for Intelligence Can Undermine Children’s Motivation and Performance พบว่าการชมที่ผลลัพธ์ (ในการศึกษาใช้คำว่า praise for intelligence) จะให้ผลในทางลบ ตรงข้ามกับการชมที่ความสามารถ (ในการศึกษาใช้คำว่า praise for effort) ที่ทำให้เด็กมีแรงจูงใจและความพยายามมากขึ้น
ดังนั้นในการชม ควรชมที่ความสามารถ เช่น
- ความพยายาม
- ความอดทน
- การวางแผน
- การเปิดกว้าง
- ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก
- ไม่กลัวความยาก
- ยอมรับความท้าทาย
- การปรับปรุงตัวเอง
และควรหลีกเลี่ยงการชมเด็กที่ผลลัพธ์ เช่น
- เรียนเก่ง
- ได้เกรดดี
- คะแนนดี
การศึกษาทางจิตวิทยาหลายครั้งพบว่า การชมเด็กที่ผลลัพธ์ที่เค้าทำได้ จะทำให้เค้าติดอยู่ตรงนั้น และยอมแพ้ต่อปัญหาง่ายขึ้น หลายๆครั้งพบว่ามี performance ที่แย่ลง อย่างไรก็ดี หากคนเราได้เรียนรู้ทักษะชีวิตที่มากเพียงพอ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะที่เพียงพอ จะทำให้เข้าใจและยอมรับที่ผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ถ้าเป็นคนวัยทำงาน อย่างหัวหน้า ชม ลูกน้องที่ผลลัพธ์ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน ก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา และมักได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วย
จากกราฟจะเห็นได้ว่าการชมเด็กที่ความสามารถ (เส้นไข่ปลา) จะทำให้เด็กสู้มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่พบกับความล้มเหลว ในขณะที่การชมเด็กที่ผลลัพธ์ จะทำให้เด็กถอดใจยอมแพ้มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจอความล้มเหลว
สุดท้ายนี้ อยากแนะนำ หนังสือ คู่มือออกแบบการเรียนรู้เพื่อสร้าง Growth Mindset ซึ่งเหมาะกับครู และผู้ปกครองมากๆครับ
Share this: